เกณฑ์ตั้ง ‘ผอ.ร.ร.’ มีแต้มไสยศาสตร์ ‘รัชชัยย์’ ชี้มีปัญหา-เอื้อทุจริตโยกย้ายวงกว้าง

เกณฑ์ตั้ง ‘ผอ.ร.ร.’ มีแต้มไสยศาสตร์ ‘รัชชัยย์’ ชี้มีปัญหา-เอื้อทุจริตโยกย้ายวงกว้าง แนะใช้ กม.ข้อมูลข่าวสารขอดู ‘วิธีคิด-คะแนน’

ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยว่า กรณีมีหนังสือเปิดผนึกขององค์กรภาคีเครือข่ายเตรียมอุดมศึกษา ถึง น.ส.ตรีนุช เทีอนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขอให้ตรวจสอบการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมฯ เนื่องจากมติคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (กพฐ.ตอ.) ที่มีนายกฤษณพงศ์ กีรติกร ประธาน เสนอชื่อนายขจิตพันธ์ สุวรรณสิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษานารี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมฯ คนใหม่ แต่กลับมีคำสั่งแต่งตั้ง นายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประกอบกับการที่สมาคมพิทักษ์สิทธิฯ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากบรรดาผู้อำนวยการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การย้ายดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดนั้น เป็นหลักเกณฑ์ที่อาจมีปัญหา และเอื้อต่อการทุจริตในวงกว้าง

ดร.รัชชัยย์กล่าวต่อว่า เพราะเมื่อดูรายละเอียดตัวชี้วัดคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้ายตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สพฐ.ประจำปี 2565 ที่ สพฐ.กำหนดมานั้น มีองค์ประกอบ และคะแนนการประเมิน ดังนี้ 1.ความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการศึกษา 2.ประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา 3.ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่/คุณภาพการปฏิบัติงาน 4.วิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการศึกษา 5.การพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพ และ 6.การประพฤติ รวมทั้งหมด 100 คะแนน

ดร.รัชชัยย์กล่าวอีกว่า จากหลักเกณฑ์ดังกล่าว พบว่ามีการให้คะแนนในลักษณะที่เป็นคะแนนวิทยาศาสตร์ 60 คะแนน และคะแนนไสยศาสตร์ 40 คะแนน โดยคะแนนวิทยาศาสตร์ จะเป็นเกณฑ์สามารถวัด และประเมินผลได้ ประกอบด้วย ประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา และผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่/คุณภาพการปฏิบัติงาน ส่วนคะแนนไสยศาสตร์ คือความสามารถการบริหารจัดการศึกษา คะแนนวิสัยทัศน์ และการพัฒนาตนเอง สาเหตุที่เรียกว่าเป็นคะแนนไสยศาสตร์ เพราะเกณฑ์กำหนดให้ผู้ประสงค์ขอย้าย เขียนเรียงความแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งไม่มีหลักเกณฑ์อะไรในการวัด และจะทราบได้อย่างไรว่าผู้ที่ประสงค์ขอย้าย เขียนเรียงความเอง ไม่ได้จ้างใครเขียน

การศึกษา.jpg4

“ดังนั้น ถ้าเกณฑ์ดังกล่าวอยู่ในมือใคร ก็สามารถสร้างโอกาส และเอื้อประโยชน์ในการทุจริต ทำให้เกิดการทุจริตวงการศึกษาเป็นทอดๆ ตั้งแต่ส่วนกลาง ระดับผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จนถึงระดับผู้อำนวยการสถานศึกษา อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้หมายความว่าผู้อำนวยการ สพท.หรือคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นคนไม่ดี แต่หลักเกณฑ์ไม่ดี และขณะนี้มีหลายคนมองว่า ที่ผู้ใหญ่ใน ศธ.ไฟเขียวหลักเกณฑ์นี้ เพราะผู้ใหญ่มีคนของตนเองที่ต้องการฝาก จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ออกมาอธิบายหลักเกณฑ์ดังกล่าว และต้องการให้แก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้เป็นธรรม หรือกลับไปใช้หลักเกณฑ์เดิม ที่ดูลำดับอาวุโส เป็นผู้บริหารสถานศึกษามาหลายปี ควรจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกก่อน เป็นต้น” ดร.รัชชัยย์ กล่าว

ดร.รัชชัยย์กล่าวต่อว่า ขอเสนอแนะให้ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ทำเรื่องขอดูคะแนนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอดูคะแนนของตนเอง และคะแนนของผู้ที่ได้ พร้อมขอดูหลักเกณฑ์การให้คะแนน รวมทั้ง รายงานการประชุม และขอทราบเหตุผลทำไมถึงได้คะแนนน้อยด้วย